15 แนวคิดที่ผมได้จากการเรียน PTU Process Training Unit ที่ช่างเทคนิคควรรู้

15 แนวคิดที่ผมได้จากการเรียน PTU Process Training Unit ที่ช่างเทคนิคควรรู้

หลักสูตร Process Training Unit (PTU) - Advanced Troubleshooting Training (TS-201) ที่จัดโดย VOLTEX INNOVATION CO., LTD. ที่ผมได้มาเรียน ปิดคอร์สอย่างสมบูรณ์แบบตลอด 3 วัน 2 คืน กับประสบการณ์การเรียนที่ “กินดี อยู่ดี” ในบรรยากาศที่เปรียบเสมือนกำลังซ่อมเครื่องจักรอยู่ในโรงงานจริง แต่เย็นสบายด้วยแอร์ตลอดทั้งวัน! เนื้อหาการเรียนการสอนออกแบบมาอย่างมีระบบโดยทีมงานจาก Voltex PTU ที่ถ่ายทอดความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติได้อย่างลงตัว วันที่ผมเรียนมาลงพร้อมกับพี่ๆ ทีม Service จาก Endress+Hauser (E&H) ทำให้เหมือนมีพี่ๆผู้เรียนร่วมกัน ที่คอยให้คำแนะนำกับผม ทำให้ผมได้ลงมือปฏิบัติจริงกับเครื่องมือวัดตัวจริง และเข้าใจหลักการทำงานอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น แนะนำเลยว่า หากมาเรียน เก็บข้อสงสัยมาแล้วถามให้เต็มที่นะครับ

15 แนวคิดที่ผมได้จากการเรียน PTU Process Training Unit ที่ช่างเทคนิคควรรู้

การซ่อมบำรุงและแก้ไขปัญหาเครื่องมือวัดในโรงงานอุตสาหกรรม ไม่ใช่แค่เรื่องของประสบการณ์หรือทักษะเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับ “ความเข้าใจอย่างเป็นระบบ” ทั้งในเชิงทฤษฎีและการปฏิบัติจริง หลักสูตร PTU Process Training Unit จาก Endress+Hauser ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ช่วยยกระดับความเข้าใจเชิงลึกของงานเทคนิคได้อย่างแท้จริง

ต่อไปนี้คือ 15 ข้อคิดที่ผมได้จากหลักสูตร ซึ่งจะช่วยให้ช่างเทคนิคทำงานได้แม่นยำ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

1. ศึกษารายท่อ (Piping) และอ่าน P&ID ให้เข้าใจ

ก่อนเริ่มงาน ควรศึกษาผังท่อและแบบ P&ID (Piping and Instrumentation Diagram) ให้เข้าใจอย่างชัดเจนว่าอุปกรณ์วัดตัวไหนติดตั้งอยู่ตรงไหน เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นอย่างไร จะช่วยให้มองภาพรวมของกระบวนการได้ดีขึ้น และลดความผิดพลาดในการทำงาน

2. เข้าใจหลักการทำงานของอุปกรณ์

ไม่ใช่แค่ดูว่าสัญญาณเข้า-ออกเป็นอย่างไร แต่ต้องเข้าใจ “หลักการทำงาน (Working Principle)” ของเครื่องมือ เช่น Ultrasonic, Electromagnetic, Radar, Differential Pressure ฯลฯ เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างแม่นยำ และแก้ไขได้ตรงจุด

3. คู่มือคือเพื่อนที่ดีที่สุด

ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์แค่ไหน อย่าละเลยการเปิดคู่มือ (Manual) เพราะข้อมูลในนั้นเป็น “แนวทางจากผู้ผลิต” ที่ระบุชัดว่าต้องติดตั้ง ใช้งาน และบำรุงรักษาอย่างไร เพื่อให้เครื่องมือทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

4. ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ

ทุกการกระทำมีผลต่อกระบวนการผลิต เช่น การถอดสายสัญญาณควร ปิดไฟ (Power Off) ทุกครั้งก่อนลงมือ ห้ามชะล่าใจเด็ดขาด เพราะอาจเกิดความเสียหายทั้งต่ออุปกรณ์และกระบวนการได้

5. ค้นหาคู่มือง่าย ๆ ที่เว็บไซต์ผู้ผลิต

หากหาเอกสารไม่ได้ในไซต์หน้างาน คุณสามารถเข้าเว็บของ Endress+Hauser (endress.com) เพื่อค้นหาคู่มือได้ทันที ครบถ้วนทั้งวิธีติดตั้ง ตั้งค่า และการแก้ไขปัญหา

6. เริ่มต้นจากการเก็บข้อมูลลูกค้า

ก่อนลงมือแก้ปัญหา ควรถามและจดข้อมูลจากลูกค้าให้ได้มากที่สุด เช่น อาการผิดปกติ สภาพแวดล้อม ช่วงเวลาที่เริ่มเกิดปัญหา ฯลฯ เพราะข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราวิเคราะห์เบื้องต้นได้ว่าควรตรวจสอบจุดไหนก่อน

7. ตรวจสอบการติดตั้งและการเลือกอุปกรณ์

ก่อนโทษว่าเครื่องมือเสีย ให้ย้อนดูว่า อุปกรณ์ติดตั้งถูกต้องไหม และ ถูกเลือกให้เหมาะกับกระบวนการหรือไม่ เช่น อุณหภูมิ ความดัน หรือประเภทของของไหลตรงกับสเปคหรือเปล่า

8. เช็ค Error Code ด้วยคู่มือ

ถ้ามีข้อความแจ้งเตือนหรือ Error Code แสดงบนหน้าจอ ควรนำรหัสนั้นไปค้นหาในคู่มือ เพราะในนั้นจะมีคำอธิบายปัญหาและแนวทางแก้ไขไว้ครบถ้วน

9. เรียงลำดับการแก้ปัญหาอย่างมีระบบ

ในคู่มือมักมีแนวทางการแก้ปัญหาแบบ Step by Step ควรเริ่มจากวิธีที่ง่ายที่สุดก่อน แล้วค่อยไล่ไปยังขั้นที่ซับซ้อนหรือมีความเสี่ยงสูง อย่าข้ามขั้น เพราะอาจทำให้เสียเวลาและเกิดความเสียหาย

10. เตรียมเครื่องมือให้พร้อมและตรงกับงาน

ก่อนลงหน้างาน ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์สื่อสารที่เครื่องมือรองรับคืออะไร เช่น Bluetooth, CDI, Ethernet หรือ HART เพื่อจะได้พกเครื่องมือให้ตรงจุด ไม่ต้องแบกทั้งกระเป๋าไปให้หนักโดยใช่เหตุ

11. ศึกษาวิธีใช้เครื่องมือและอุปกรณ์อย่างละเอียด

เครื่องมือวัดแต่ละชนิดมีวิธีถอด ประกอบ และซ่อมแซมเฉพาะ ควรอ่านคู่มือให้เข้าใจว่าใช้อะไร เบอร์อะไร ใช้แรงเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี

12. เรียนรู้การใช้ซอฟต์แวร์คอนฟิก

ซอฟต์แวร์อย่าง Endress+Hauser FieldCare หรือ DeviceCare เป็นเครื่องมือสำคัญในการตั้งค่าและตรวจสอบอุปกรณ์ ควรรู้ว่าตัวแปรไหนสำคัญ และต้องตั้งอย่างไรให้เหมาะสมกับกระบวนการ

13. ใช้ฟังก์ชัน Health Check ของอุปกรณ์ให้เป็น

หลายเครื่องมือวัดมีระบบ Self-Diagnostic หรือ Health Check เช่น Heartbeat Technology ของ  
Endress+Hauser ซึ่งจะช่วยประเมินว่าอุปกรณ์พร้อมใช้งานหรือไม่ มีรายงาน (Report) ที่สามารถใช้ตรวจสอบได้เบื้องต้น และแนะนำแนวทางแก้ไขด้วย

14. อย่าลืมตรวจสอบฝั่งเซ็นเซอร์เชิงกล

ปัญหาหลายครั้งไม่ได้มาจากระบบไฟฟ้าหรือการคอนฟิก แต่อาจเกิดจากเซ็นเซอร์ฝั่งกลไก เช่น ตำแหน่งติดตั้งไม่เหมาะ หรือมีสิ่งอุดตัน ควรตรวจสอบหน้างานอย่างละเอียด

15. สื่อสารและทำงานเป็นทีม

ในการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ต้องทำงานร่วมกัน เช่น เซ็นเซอร์ที่หน้างานกับจอแสดงผลในห้องควบคุม ต้องมีการแบ่งงาน และสื่อสารกันตลอดเวลา จะช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น

สรุป

แนวคิดทั้ง 15 ข้อนี้เป็นหลักการพื้นฐานที่ช่างเทคนิคทุกคนควรมีติดตัวเมื่อทำงานกับ เครื่องมือวัดในกระบวนการผลิต (Process Instrumentation) เพราะจะช่วยให้ทำงานได้อย่างปลอดภัย รวดเร็ว และแก้ปัญหาได้ตรงจุด พร้อมสร้างความน่าเชื่อถือในสายงานอาชีพของคุณ