🏭 การเชื่อมโยงข้อมูลในระบบอัตโนมัติ (Automation Integration – ISA-95)
ในโรงงานอุตสาหกรรมสมัยใหม่ การควบคุมการผลิตไม่ได้จบที่แค่การควบคุมเครื่องจักร แต่ต้องเชื่อมโยงข้อมูลทุกระดับ ตั้งแต่หน้างานไปจนถึงฝ่ายบริหาร เพื่อให้โรงงานทำงานเป็นระบบเดียวกัน
พื้นฐานทางการวัดและควบคุมสำหรับกระบวนการอัตโนมัติ , รศ.ดร.ธีรวัตฒน์ เทพมณี (2563)
มาตรฐาน ISA-95 เป็นแนวทางที่อธิบายว่า ข้อมูลจากหน้างานควรถูกส่งต่ออย่างไร ไปจนถึงระดับการวางแผนธุรกิจ
พื้นฐานทางการวัดและควบคุมสำหรับกระบวนการอัตโนมัติ , รศ.ดร.ธีรวัตฒน์ เทพมณี (2563)
✅ 1. โครงสร้างการเชื่อมโยงข้อมูล 4 ระดับ
จาก Automation Pyramid ในภาพ จะเห็นการแบ่งระดับดังนี้
1️⃣ Level 1-2: Control Domain (ระดับการควบคุมหน้างาน)
-
ใช้เครื่องมือวัด (Sensor, Transmitter) → ส่งสัญญาณให้ Controller
-
Controller (เช่น PLC หรือ DCS) → ควบคุมกระบวนการ
-
มีรูปแบบการควบคุม เช่น
-
Batch Control → ผลิตเป็นรอบ ๆ เช่น ผลิตยา, อาหาร
-
Continuous Control → ผลิตต่อเนื่อง เช่น โรงไฟฟ้า, โรงกลั่น
-
Discrete Control → การประกอบชิ้นส่วน เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์
-
2️⃣ Level 3: Manufacturing Operation Management (MOM)
-
บริหารจัดการการผลิต → Maintenance, Quality, Inventory
-
รวบรวมข้อมูลจาก Controller เพื่อวิเคราะห์ สมรรถนะการผลิต
-
ตัวอย่างข้อมูล เช่น
-
Production Capability Information
-
Production Definition Information
-
Production Schedule Information
-
Production Performance Information
-
3️⃣ Level 4: ERP Domain (การวางแผนธุรกิจ)
-
Business Planning & Logistics เช่น การจัดซื้อวัตถุดิบ, วางแผนกำลังการผลิต
-
ใช้ข้อมูลจาก Level 3 → ตัดสินใจด้านธุรกิจ
✅ 2. การไหลของข้อมูลในแต่ละระดับ
-
ระดับ 1 → ระดับ 2
-
Sensor/Transmitter → วัดค่า Flow, Level, Pressure, Temperature
-
ส่งสัญญาณไปยัง Controller (PLC/DCS) เพื่อควบคุมอุปกรณ์ เช่น Control Valve
-
การสื่อสารตรงนี้เรียกว่า Fieldbus (เช่น HART, Profibus, Modbus)
-
-
ระดับ 2 → ระดับ 3
-
Controller ส่งข้อมูลไปยัง SCADA หรือ HMI → ให้ Operator ดูสถานะการผลิต
-
ข้อมูลสำคัญ เช่น ปริมาณการผลิต (น้ำหนัก, ปริมาตร), อัตราการผลิต, คุณภาพ
-
-
ระดับ 3 → ระดับ 4
-
SCADA ส่งข้อมูลสรุปให้ MOM / ERP System
-
ข้อมูลนี้ช่วย วางแผนการผลิต, ประเมินประสิทธิภาพ, บริหารวัตถุดิบและสินค้าคงคลัง
-
✅ 3. ตัวอย่างการเชื่อมโยงในโรงงานจริง
📌 โรงไฟฟ้า
-
Level 1: Sensor วัดความดันไอน้ำ → Transmitter ส่งสัญญาณ 4-20mA
-
Level 2: DCS ควบคุม Boiler ตาม Setpoint
-
Level 3: SCADA บันทึกข้อมูลการผลิตไฟฟ้า (MW, Efficiency)
-
Level 4: ERP ใช้ข้อมูลมาวางแผนจัดหาน้ำมันหรือชีวมวล
📌 โรงงานอาหาร
-
Level 1: Sensor วัดอุณหภูมิ/ความชื้นในเครื่องอบ
-
Level 2: PLC ควบคุมความร้อนอัตโนมัติ
-
Level 3: HMI แสดงประวัติการผลิต, ปริมาณผลิตต่อ Batch
-
Level 4: ERP ใช้ข้อมูลในการวางแผนการจัดซื้อวัตถุดิบ
✅ 4. ทำไมช่างเทคนิคควรเข้าใจ ISA-95?
-
รู้ว่า ข้อมูลจาก Sensor ไม่ได้จบแค่ที่ Controller แต่ถูกส่งต่อไปวิเคราะห์ระดับโรงงาน
-
เข้าใจการเชื่อมโยงระหว่าง Field Instrument → Controller → SCADA → ERP
-
ทำให้แก้ไขปัญหาได้ถูกจุด เช่น ถ้า ERP ข้อมูลผิด อาจเกิดจาก Sensor หรือ Controller
✅ สรุปสั้น ๆ จำง่าย
-
Level 1-2 → ควบคุมหน้างาน
-
Sensor → PLC/DCS → Control Valve
-
-
Level 3 → บริหารจัดการการผลิต
-
SCADA/HMI → วิเคราะห์สมรรถนะ
-
-
Level 4 → วางแผนธุรกิจ
-
ERP → ใช้ข้อมูลการผลิตวางกลยุทธ์
-
ISA-95 ช่วยให้โรงงานทำงานเชื่อมโยงตั้งแต่หน้างานจนถึงฝ่ายบริหารแบบไร้รอยต่อ