กระบวนการทดสอบวาล์วควบคุมแบบใหม่ด้วย Fluke 710
ทดสอบวาล์วแบบอัตโนมัติ ลดเวลาหยุดเดินเครื่อง และเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบ
วาล์วควบคุมแบบสมาร์ทมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมกระบวนการ แต่การประเมินประสิทธิภาพวาล์วอย่างถูกต้องมักเป็นงานที่ซับซ้อน ต้องหยุดการทำงานของระบบและถอดวาล์วออกจากสายการผลิต กระบวนการนี้ใช้เวลานานและต้องการแรงงานจำนวนมาก
Fluke 710 mA Loop Valve Tester นำเสนอวิธีการตรวจสอบวาล์วที่รวดเร็วและแม่นยำ ช่วยให้ช่างเทคนิคสามารถประเมินสถานะวาล์วได้โดยไม่ต้องถอดวาล์วออกจากระบบ ผลการทดสอบช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าวาล์วต้องการการซ่อมบำรุงเพิ่มเติมหรือไม่
ความสำคัญของการตรวจสอบวาล์วควบคุม
วาล์วควบคุมแบบสมาร์ททำงานโดยการเปิด-ปิดตามสัดส่วนของสัญญาณ 4-20 mA ที่ป้อนเข้า และบางรุ่นสามารถส่งสัญญาณตอบกลับ (Feedback Signal) เพื่อแสดงตำแหน่งจริงเป็นเปอร์เซ็นต์ของการเปิด-ปิด การตรวจสอบประสิทธิภาพของวาล์วจึงเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์สองปัจจัยหลัก ได้แก่
- ตำแหน่งของวาล์ว – ตำแหน่งที่วาล์วควรจะเปิด-ปิดเมื่อได้รับสัญญาณ mA
- แรงดันควบคุม (Pressure) – แรงดันที่ใช้เพื่อเคลื่อนย้ายวาล์วไปยังตำแหน่งที่กำหนด
การทำงานของวาล์วที่สมบูรณ์มักมีความสัมพันธ์เชิงเส้นระหว่างสัญญาณ mA และแรงดัน หากพบความไม่สมดุล เช่น การใช้แรงดันเพิ่มขึ้นในบางจุด อาจเป็นสัญญาณว่าวาล์วติดขัด ซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้โดยการบันทึกและแสดงผลกราฟที่เรียกว่า "ลายเซ็นของวาล์ว" (Valve Signature)
ตัวอย่างการทำงานปกติของวาล์วเมื่อได้รับสัญญาณมิลลิแอมป์ (mA):
- 3.8 mA – วาล์วควรปิดแน่นสนิท (Hard Closed)
- 4.0 mA – วาล์วควรยังคงปิดอยู่
- 4.2 mA – วาล์วควรเริ่มเปิดออกจากตำแหน่งที่นั่งเล็กน้อย
- 12 mA – วาล์วควรอยู่ในตำแหน่งเปิด 50%
- 19.8 mA – วาล์วควรอยู่ใกล้ตำแหน่งเปิดเต็มที่ (Near Full Open)
- 20.0 mA – วาล์วควรเปิดเต็มที่ (Fully Open)
- 20.2 mA – วาล์วควรอยู่ในสถานะเปิดสุด (Hard Open) และพักอยู่บนจุดหยุด (Resting on Stop)
Fluke 710: อัตโนมัติและประหยัดเวลา
Fluke 710 ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความยุ่งยากของกระบวนการทดสอบวาล์วที่ซับซ้อน โดยสามารถทำการทดสอบอัตโนมัติและแสดงผลการวิเคราะห์สถานะของวาล์วเป็น Good, Marginal หรือ Bad ได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
การใช้งาน Signature Test
- การตั้งค่า: เชื่อมต่อสายควบคุมและสายสัญญาณกับ Fluke 710
- การทดสอบ: อุปกรณ์จะส่งสัญญาณ 4-20-4 mA และบันทึกผลตอบกลับทั้งตำแหน่งและแรงดันที่ส่งมายังวาล์ว
- การประเมินผล: Fluke 710 จะแสดงผลกราฟและบ่งบอกสถานะของวาล์วอย่างชัดเจน
ข้อดีของการทดสอบแบบอัตโนมัติ
- ประหยัดเวลา: ลดเวลาการทดสอบจากชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที
- ลดภาระงาน: ไม่จำเป็นต้องถอดวาล์ว ลดการหยุดเดินเครื่อง
- เพิ่มความแม่นยำ: สามารถตรวจสอบการทำงานของวาล์วในสภาวะการทำงานจริง ไม่ใช่แค่จากตัวบ่งชี้ภายนอก
การตั้งค่า Baseline และการติดตามผล
แนวทางที่ดีที่สุดในการรักษาประสิทธิภาพของวาล์วคือการบันทึกข้อมูล Baseline หรือ "ลายเซ็นของวาล์ว" ในสถานะที่ยังสมบูรณ์ โดย Fluke 710 สามารถใช้สร้างข้อมูลนี้เมื่อเริ่มใช้งานหรือหลังจากการบำรุงรักษาใหญ่
วิธีการบันทึก Baseline
- ตั้งค่าข้อมูล เช่น สัญญาณ mA ที่ส่งเข้า ตำแหน่งที่ได้รับ และวันเวลา
- บันทึกกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างสัญญาณ mA และตำแหน่ง/แรงดัน
- ใช้ซอฟต์แวร์ ValveTrack™ จัดเก็บและเปรียบเทียบผลการทดสอบในอนาคต
เมื่อไหร่ที่ควรถอดวาล์ว?
หากกราฟที่บันทึกแสดงถึงความไม่เป็นเชิงเส้น (Non-linear) หรือมีความเบี่ยงเบนในกราฟแรงดัน อาจเป็นสัญญาณว่าวาล์วกำลังมีปัญหา ซึ่ง Fluke 710 สามารถช่วยชี้ชัดสถานะ Marginal หรือ Bad ได้ โดยควรดำเนินการบำรุงรักษาวาล์ว หรือส่งให้ผู้เชี่ยวชาญทำการทดสอบเพิ่มเติม
Fluke 710 คือเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการตรวจสอบและบำรุงรักษาวาล์วในกระบวนการอุตสาหกรรม โดยช่วยให้คุณมั่นใจในประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบการผลิตได้อย่างมีประสิทธิผล