ทำไมต้องใช้สัญญาณ 4-20 mA ในอุตสาหกรรม? | ข้อดีและหลักการทำงาน

ทำไมต้องใช้สัญญาณ 4-20 mA ในอุตสาหกรรม? | ข้อดีและหลักการทำงาน

ทำไมต้องใช้สัญญาณ 4-20 mA ในอุตสาหกรรม? | ข้อดีและหลักการทำงาน

1. บทนำ

ในระบบควบคุมและเครื่องมือวัดในอุตสาหกรรม สัญญาณ 4-20 mA ถือเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการส่งค่าข้อมูลจากเครื่องมือวัดไปยังระบบควบคุม เช่น PLC (Programmable Logic Controller) หรือ DCS (Distributed Control System)

🔍 ทำไมต้องใช้ 4-20 mA แทนที่จะเป็น 0-20 mA หรือ 1-5 V?

✅ ตรวจจับข้อผิดพลาดของเครื่องมือวัดได้ง่าย
✅ ลดปัญหาสัญญาณรบกวนในโรงงานอุตสาหกรรม
✅ ส่งสัญญาณได้ไกลโดยไม่เกิดแรงดันตกคร่อม (Voltage Drop)

ในบทความนี้ เราจะมาอธิบาย หลักการทำงานของสัญญาณ 4-20 mA และ ข้อดีของการใช้สัญญาณนี้ในอุตสาหกรรม


2. หลักการทำงานของสัญญาณ 4-20 mA

เครื่องมือวัดในอุตสาหกรรม เช่น
📌 Temperature Transmitter (เครื่องวัดอุณหภูมิ)
📌 Pressure Transmitter (เครื่องวัดความดัน)
📌 Flow Transmitter (เครื่องวัดอัตราการไหล)
📌 Level Transmitter (เครื่องวัดระดับของไหล)

ต้องใช้ Transmitter ในการแปลงค่าที่วัดได้ให้เป็นสัญญาณมาตรฐาน 4-20 mA เพื่อส่งไปยังระบบควบคุม เช่น PLC หรือ DCS

2.1 การรับสัญญาณ 4-20 mA ในระบบควบคุม

  1. Transmitter ส่งสัญญาณ 4-20 mA ไปยัง PLC/DCS
  2. Analog Input Module ของ PLC หรือ DCS แปลงสัญญาณกระแสเป็นแรงดันไฟฟ้า
  3. ค่าที่วัดได้จะถูกคำนวณเป็นตัวเลขดิจิทัลโดย CPU ของ Controller

2.2 ตัวอย่างการแปลงสัญญาณ

ค่ากระแส 4-20 mA จะถูกแปลงเป็นแรงดันไฟฟ้าโดยใช้ตัวต้านทาน 250 โอห์ม ตามกฎของโอห์ม (V = IR)

กระแส (mA) แรงดันที่แปลงได้ (V)
4 mA 1 V
20 mA 5 V

🔹 จากนั้น CPU จะนำค่าแรงดันไฟฟ้านี้ไปคำนวณเป็นค่าที่วัดได้จริง


3. ทำไมต้องใช้ 4-20 mA แทนที่จะเริ่มที่ 0 mA?

3.1 ตรวจจับข้อผิดพลาดของเครื่องมือวัดได้ง่ายขึ้น

✅ หากเครื่องมือวัดหรือสายสัญญาณขาด สัญญาณจะเป็น 0 mA
✅ ระบบสามารถแยกแยะได้ว่าสัญญาณ ต่ำกว่า 4 mA หมายถึงความผิดปกติ

3.2 ใช้พลังงานเลี้ยงอุปกรณ์ 2-Wire Transmitter

✅ อุปกรณ์ Transmitter แบบ 2-Wire ต้องใช้พลังงานเลี้ยงขั้นต่ำ 3.5 mA
✅ หากใช้ 0-20 mA อุปกรณ์จะไม่สามารถทำงานได้

3.3 ความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน

✅ กระแสสูงสุดที่ใช้คือ 20 mA ซึ่ง ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์
✅ ปลอดภัยกว่าแรงดันไฟฟ้าสูงๆ ที่อาจเกิดไฟฟ้าช็อต

3.4 ป้องกันแรงดันตกคร่อม (Voltage Drop)

✅ ระบบที่ใช้แรงดันไฟฟ้า เช่น 1-5 V เมื่อส่งสัญญาณไกล จะเกิดแรงดันตกคร่อม
✅ สัญญาณ 4-20 mA ไม่มีปัญหาแรงดันตกคร่อม เพราะกระแสยังคงที่

3.5 ทนต่อสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI)

✅ สัญญาณกระแส 4-20 mA ทนทานต่อสัญญาณรบกวนมากกว่าสัญญาณแรงดันไฟฟ้า


4. วิธีคำนวณสเกลของสัญญาณ 4-20 mA

4.1 การแปลงสัญญาณ 4-20 mA เป็นเปอร์เซ็นต์การวัด

กระแส (mA) เปอร์เซ็นต์ของค่าย่านวัด (%)
4 mA 0%
8 mA 25%
12 mA 50%
16 mA 75%
20 mA 100%

4.2 สูตรคำนวณค่าที่วัดได้จากสัญญาณ 4-20 mA

สูตร:

📌 ตัวแปรที่ใช้ในสูตร

  • MV (Measured Value) = ค่ากระแสที่วัดได้ (mA)
  • LRV (Low Range Value) = ค่าต่ำสุดของช่วงการวัด (4 mA)
  • Span = 20 mA - 4 mA = 16 mA

ตัวอย่างการคำนวณ:

หากวัดได้ 14.98 mA ต้องการทราบว่าเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของช่วงการวัด

🔹 หมายความว่า ค่านี้อยู่ที่ประมาณ 68.6% ของช่วงการวัดทั้งหมด


5. สรุปข้อดีของสัญญาณ 4-20 mA

ช่วยให้ตรวจสอบข้อผิดพลาดของเครื่องมือวัดได้ง่าย
ใช้พลังงานเลี้ยงอุปกรณ์ 2-Wire Transmitter ได้
ปลอดภัยสำหรับผู้ปฏิบัติงาน (กระแสไม่สูงเกินไป)
ไม่มีปัญหาแรงดันตกคร่อมเมื่อต้องส่งสัญญาณระยะไกล
ทนต่อสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) ได้ดี

💡 ด้วยข้อดีเหล่านี้ ทำให้ 4-20 mA เป็นมาตรฐานที่ใช้ในอุตสาหกรรมมาจนถึงปัจจุบัน